ในปัจจุบันเอเจนซี่ก็ดี แบรนด์เองก็ดี ต่างก็ใช้เครื่องมือ (Monitoring Tools) มาบริหารจัดการ Social Media ต่าง ๆ กันแทบทุกองค์กร แต่อาจแตกต่างกันไป เช่น อาจเป็นรูปแบบ Social Analytics ผสมกับ Social Manegement หรือรูปแบบ Social Listening ผสมกับ Social Influencer หรือรวมเอาทุกอย่างมารวมเป็น Tools เดียวกันก็มี
จึงเกิดคำถาม ว่าการแบ่งประเภทของเครื่องมือบน Social Media หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า … “Social Monitoring Tools” แบ่งได้กี่รูปแบบ มีอะไรบ้าง ถือว่าเป็นคำถามที่ดี เป็นคำถามที่น่าสนใจ หลาย ๆ คนคงอยากรู้ เลยเขียนสรุปแบบย่อ ๆ ให้เข้าใจง่าย ๆ ดังนี้ …
Social Listening – เครื่องมือที่ทำให้เราสามารถรับฟังสิ่งที่ผู้บริโภคพูดบนโลกออนไลน์ หรือใช้ในการค้นหาหรือเก็บข้อมูลเสียงของผู้บริโภคที่เราให้ความสนใจ วัตถุประสงค์เพื่อรับฟังเรื่องราวและประเด็นต่าง ๆ เรื่องที่เราสนใจ ในช่วงเวลาที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการพูดถึงแบรนด์ สินค้า กิจกรรม หรือแม้กระทั่งบุคคล เพื่อทำให้เรารู้ว่า … ใครกำลังพูดอะไร พูดอย่างไร โดยทั่วไปมักจะใช้วิธีการจับจากคีย์เวิร์ดที่ต้องการ
Social Management – เครื่องมือที่ใช้บริหารจัดการ social media ต่างๆ ของเรา เช่น Facebook , Twitter หรือ Instagram โดยปกติแล้วหากเราต้องรับคำถามหรือความคิดเห็นจากลูกค้า เราต้องเปิดเข้าไปดูทีละช่องทาง แต่ระบบ Social Management สามารถรวบรวมคำถามหรือความคิดเห็นจากหลายๆ ช่องทางมาที่ช่องทางเดียวและยังมีระบบในการตอบคำถามไปยังช่องทางอื่นๆ ได้ทันที
Social Marketing – เครื่องมือที่ใช้ในการสร้าง บริหารจัดการ และวัดผลการทำแคมเปญต่างๆ บน Social Media ในบางครั้งเราต้องเสียค่าใช้จ่ายและเวลาในการบริหารจัดการต่างๆ เช่น ค่าเวลาในบริการจัดการ ค่าเวลาในการจัดทำรายงาน ซึ่งต้นทุนเหล่านี้บ่อยครั้งมีมูลค่ามากกว่าของรางวัลที่จะแจกเสียอีก ระบบ Social Marketing จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและระยะเวลาเหล่านี้ลงไปได้มาก
Social Analytics – เครื่องมือที่ใช้ในการวัดผลตัวเลขสถิติบน social media ต่างๆ เช่น จำนวนแฟนเพจ หรือ Engagement บน Facebook จำนวนผู้ติดตาม ซึ่งในเครื่องมือต่าง ๆ เหล่านี้จะมีการแสดง Metric หรือค่าชี้วัดต่าง ๆ อาจจะเป็นจำนวนตัวเลขสถิติหรือว่าค่าที่เป็นสูตรต่างๆ เพื่อช่วยให้เราเข้าใจข้อมูลที่เกิดขึ้นบน Social Media ของเราและคู่แข่ง
Social Influencer – เครื่องมือที่ใช้วัดความมีอิทธิพลของโปรไฟล์ต่าง ๆ ซึ่งในเครื่องมือแต่ละเจ้า ก็จะมีวิธีการคำนวณหรือสูตรที่ใช้คำนวณแตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่นใน twitter ก็จะใช้ตัวเลข Follower, จำนวนการ Tweet, ระยะเวลาที่ใช้งาน หรือแม้กระทั่งดูแนวโน้มว่าทวีตของโปรไฟล์นั้นๆ มีการถูก Retweet บ่อยกว่า เป็นต้น
ปัจจุบันในท้องตลาดทั้งในและต่างประเทศ มีเครื่องมือ “Social Media Monitoring Tools” อาจมีมากถึง 100 ตัว มีทั้งแบบเสียเงินและแบบฟรี หรือแม้แต่ให้ทดลองใช้ ถ้าชอบค่อยซื้อตัวเต็ม แต่จำกัดการใช้งาน ส่วนฟีเจอร์เด่น ๆ อยากได้ต้องซื้อตัวเต็มไป ผมจะขอคัด Tools ที่คิดว่าใช้งานไม่ยาก มีทั้งแบบให้ใช้ฟรี หรือ ราคาไม่แพงจนเกินไป และเหมาะสมกับการใช้งานของคนไทยที่จะเน้น Facebook , Instagram , Twitter และ LINE เป็นหลัก โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ …
1. Social Monitoring Tools
2. Social Listening Tools
3. Social Media Tools
4. Social Commerce Management Tools
โดยขออธิบายสั้น ๆ แบบกระชับดังนี้
1. Social Monitoring Tools สัญชาติไทยแท้
ZocialEye : ผมขอไม่อธิบายถึงเครื่องมือนี้ ผมเชื่อว่านักการตลาดทั้งมือใหม่ มือเก่า รู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว
Thoth Media : เป็น Social Monitoring ของบริษัท Thoth Media มีการปรับหน้าตาใหม่ มีการแสดงผลหลายๆ อย่างได้ละเอียดขึ้น เช่น Market Overview , Brand Overview , Sentiment And Share of Voice
OBVOC : เป็นเครื่องมือในการทำ Brand Monitoring ของบริษัท startup สัญชาติไทยที่ชื่อว่า Onebit Matter ซึ่งล่าสุด ! Thoth Zocial vs OBVOC ประกาศควบรวมธุรกิจด้านการวิเคราะห์ข้อมูลออนไลน์ ร่วมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา
SocialEnable : มีความสามารถพิเศษตรงที่เป็นทั้ง Social Monitoring และเป็นเครื่องมือในการตอบลูกค้าได้เลยทันที พร้อมที่จะนำไปปรับใช้กับฝ่ายบริการลูกค้าของบริษัทได้เลย
Zanroo Social Listening : เป็น Brand Monitoring ที่ใช้ควบคุมจัดการ Crisis Management, Trend Monitoring, CRM, Competitor Analysis นอกจากนี้ยังมี Zanroo Social Engagement ที่ใช้จัดการ Social Media Accounts ของเรา
TH3RE เป็น Listening Tools ที่จะนำเอา Big data technology เข้ามาช่วยให้องค์กรได้เห็น Awareness ของ Brand และเข้าใจผู้บริโภคมากขึ้นจากผู้คนที่พูดถึงสินค้า หรือบริการ โดยมีรูปแบบของกราฟ และการแสดงผลให้เลือกมากมาย ซึ่งสามารถนำมาสร้างเป็น Warroom หรือ Command Centre ของตัวเองได้ทันที
2. Social Listening Tools
ViralHeat : เป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อทุกธุรกิจไม่ว่าจะเป็นบริษัทใหญ่หรือเล็ก ทำงานร่วมกันกับ Google Analytic รายงานผลข้อมูลทางประชากรศาสตร์ ผู้มีอิทธิพลต่อแบรนด์ และจำนวนทราฟฟิก รวมถึงยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลทางอารมณ์หรือความรู้สึกได้เหมือนเครื่องมืออื่นๆ ให้คุณทราบถึงปัจจัยที่ส่งผลดีและไม่ดีต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์
DataSift : เครื่องมือวิเคราะห์การทำงานของเว็บโซเชียลแบบเรียลไทม์ ซึ่งข้อความสำคัญต่างๆ ที่ผู้บริโภคพูดถึงแบรนด์จะถูกจัดเก็บไว้ในระบบ ช่วยให้นักการตลาดสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์กำหนดทิศทางทางการตลาดได้
Sysomos : เครื่องมือช่วยจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลการสนทนาบนสื่อออนไลน์ของผู้บริโภค ช่วยให้ทราบถึงสิ่งที่ผู้บริโภคบนโลกออนไลน์พูดถึงอย่างเจาะลึก เลือกดูได้ตามเพศ ช่วงอายุ ที่คุณสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกและรวดเร็วผ่านระบบ Interface ที่เรียกว่า Heartbeat
TweetReach : เครื่องมือช่วยวัดประสิทธิภาพของแต่ละข้อความที่ได้ทวีตผ่านทาง Twitter รวมทั้งยังวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ควรจะเจาะกลุ่มเป้าหมายไหน อย่างไร และเมื่อไรภายในระบบ Interface นี้
3. Social Media Tools
Crowdbooster : ถือว่าเป้นเครื่องมือชั้นดีของ Facebook และ Twitter ของคุณ เพราะมันจะคอยบอกว่าผู้ติดตามบน Page หรือ Account คนไหนที่ชอบมาไลค์ คอมเมนต์ แชร์ มากที่สุด และตัวระบบเองก็จะคอยเสนอแนะวิธีการทำให้ Page หรือ Account ของคุณดีขึ้นอีกด้วย แต่มันรองรับเฉพาะแค่ Facebook กับ Twitter เท่านั้น
Social.gg : เป็นเครื่องมือฟรีซึ่งถูกสร้างโดยบริษัทสัญชาติไทยที่ชื่อว่า Computerlogy หลักการทำงานของมันก็คือตัวระบบจะดึงข้อมูล Social ของทั้งประเทศไทยมา แล้วดูว่าเรื่องไหนกำลังเป็นกระแส แล้วก็นำเรื่องเหล่านั้นมาจัดเรียงเป็นหมวดหมู่ ใครที่ทำสายข่าวอยู่ เครื่องมือนี้น่าจะช่วยให้หาข่าวได้ง่ายขึ้นเยอะเลย
Goo.gl : เป็นของฟรีจาก Google มันเป็น Tools ที่ใช้ง่ายมากๆ ส่วนข้อด้อยก็คือ มันฟีเจอร์มันน้อยเกินไป ทำได้แค่ทำ URL ให้สั้นลง และก็วัดจำนวนคลิ๊กได้นิดหน่อย
Buffer : เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือจัดการ Social Media ที่มีคนรู้จักมากที่สุดในโลก ข้อดีของเจ้าเครื่องมือนี้คือ มันจะโฟกัสอยู่แค่อย่างเดียวก็คือการทำยังไงก็ได้ให้ลูกค้าสามารถ Publish โพสต์บน Facebook, Twitter, Google+, Linkedin, Pinterest และ Instagram ของตัวเองได้ง่าย เร็วและดีที่สุด เพราะฉะนั้นแล้วมันน่าจะถูกเรียกว่า Social Media Publishing Tool ซะมากกว่า ข้อเสียเจ้า Tools นี้คือเรื่องราคา ที่มีราคาสูงไป
Coschedule : มันเป็นเครื่องมือที่ค่อนข้างเฉพาะทาง เหมาะสำหรับ Blogger, Marketer และ Publisher ที่สร้างคอนเทนต์จำนวนมหาศาล ซึ่ง Tools ตัวนี้จะเชื่อมต่อเข้ากับ WordPress, Evernote, Google Docs และ Social Media (Facebook, Twitter, Google+, Linkedin, Tumblr และ Pinterest) และจะทำให้เราสามารถตั้งเวลาในการปล่อย Content และเห็นภาพแผน Content ทั้งหมดของเราได้บน Platfrom เดียว ใครที่ใช้ WordPress ในการทำเว็บไซต์ และมีการผลิต Content จำนวนมาก Tools ตัวนี้น่าจะตอบโจทย์มากๆ เลยข้อเสียคือ ทดลองใช้ได้ฟรี เพียงแค่ 14 วัน
Hootsuite : เป็น Social Media Management Tool ตัวที่ดัง และ ครบเครื่องที่สุดไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการ Publish คอนเทนต์ลงบน Social Media, การจัดการกับข้อความ และคอมเมนต์, การสร้างแคมเปญ และอื่นๆ อีกมากมาย ข้อดีคือ เริ่มต้นใช้งานมันได้ฟรี ส่วนราคาแบบพรีเมียมนั้นก็เริ่มต้นในราคา $9.99 ซึ่งถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่มันทำได้
IFTTT (If This, Then That) : เป็นเครื่องมือที่ฟรี ! ช่วยเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นดังๆ ต่างๆ กว่า 500 แอพเข้าด้วยกัน และช่วยให้แอพต่างๆ ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่าง
คุณสามารถส่งโพสต์ของ Facebook ไปยัง Twitter ได้ ด้วย Hashtag เฉพาะ (อย่างของ ดิจิทัลเตาะแตะ ถ้าโพสต์ไหนบน Facebook เราใส่ Hashtag ว่า #ดิจิทัลเตาะแตะ ตัวโพสต์จะถูกส่งไปยัง Twitter, Google+ และ Linkedin โดยอันโตมัติ
1 thoughts on “การแบ่งประเภท “Social Media Monitoring Tools””